วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

บทที่ 3 คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์

บทที่ 3
คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์

ฮาร์ดแวร์ หมายถึง ส่วนที่ประกอบเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ที่เราสามารถมองเห็นและสัมผัสได้ เช่น ตัวเครื่อง จอภาพ คีย์บอร์ด และเมาส์ เป็นต้น
เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลโดยทั่วไปจะมีฮาร์ดแวร์หลักๆ ประกอบด้วย
· ตัวเครื่อง (Case) ทำหน้าที่ในส่วนของการประมวลผลข้อมูลที่ได้รับมาจากอุปกรณ์นำเข้าต่างๆ ซึ่งภายในตัวเครื่องจะมีอุปกรณ์หลัก ได้แก่ แผงวงจรหลัก หม้อแปลงไฟฟ้า ซีพียู ฮาร์ดดิสก์ หน่วยความจำ การ์ดแสดงผล การ์ดเสียง เป็นต้น
· จอภาพ (Monitor) ทำหน้าที่แสดงผลข้อความ รูปภาพ
· ดิสก์ไดร์ฟ (Disk drive) เป็นอุปกรณ์อ่าน-เขียนข้อมูลบนดิสก์เก็ต
· คีย์บอร์ด (Keyboard)ทำหน้าที่ป้อนข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์
· เมาส์ (Mouse) เป็นส่วนที่ใช้สั่งงานด้วยการชี้และเลือกสิ่งต่างๆที่แสดงอยู่บนจอภาพ
· ลำโพง (Speaker) เป็นส่วนที่ใช้แสดงผลที่เป็นเสียง

3.1 ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ จำแนกหน้าที่ของฮาร์ดแวร์ต่างๆ สามารถแบ่งเป็นส่วนสำคัญ 5 ส่วน คือ
1) หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) ทำหน้าที่รับโปรแกรมคำสั่ง และข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์
2) หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit - CPU) ทำหน้าที่เกี่ยวกับการคำนวณทั้งทางตรรกะและคณิตศาสตร์ รวมทั้งการประมวลข้อมูลตามคำสั่งที่ได้รับ
3) หน่วยความจำ (Memory Unit) ทำหน้าที่เก็บข้อมูลหรือคำสั่งที่ส่งมาจากหน่วยรับข้อมูล เพื่อเตรียมส่งไปประมวลผลยังหน่วยประมวลผลกลาง และเก็บผลลัพธ์ที่ได้มาจากการประมวลผลแล้วเพื่อเตรียมส่งไปยังหน่วยแสดงผล
4) หน่วยแสดงผล (Output Unit) ทำหน้าที่แสดงผลข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ทำการประมวลผลหรือผ่านการคำนวณแล้ว
5) อุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ (Peripheral Equipment) เป็นอุปกรณ์ที่นำมาต่อพ่วงเข้ากับคอมพิวเตอร์ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากยิ่งขึ้น เช่น โมเด็ม แผงวงจรเชื่อมต่อเครือข่าย เป็นต้น

3.2 หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) ฮาร์ดแวร์ที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยรับข้อมูลมีหลากหลายอุปกรณ์ ได้แก่
1) คีย์บอร์ด (Keyboard) อุปกรณ์รับข้อมูลจากการกดแป้นแล้วทำการเปลี่ยนเป็นรหัส เพื่อบอกให้คอมพิวเตอร์รู้ว่ามีการกดตัวอักษรอะไร แผงแป้นอักขระส่วนใหญ่เป็นไปตามมาตรฐานของเครื่องพิมพ์ดีด ซึ่งระบบรับรหัสตัวอักขระที่ใช้ในทางคอมพิวเตอร์เป็นรหัส 7 หรือ 8 บิต
2) เมาส์ (Mouse) อุปกรณ์นำเข้าข้อมูลโดยการเลื่อนเมาส์เพื่อบังคับตัวชี้ไปยังตำแหน่งต่างๆ บนหน้าจอ เมาส์ที่นิยมใช้มีด้วยกัน 3 ประเภท ได้แก่ นิาส์ทีjobp,.=
- แบบทางกล (Mechanical) ใช้ลูกกลิ้งกลม
- แบบใช้แสง (Optical mouse)
- แบบไร้สาย (Wireless Mouse)

3) OCR (Optical Character Reader) อุปกรณ์นำเข้าข้อมูล โดยใช้วิธีการอ่านข้อมูลด้วยลำแสงในลักษณะพาดขวางบนเอกสารที่มีข้อมูลอยู่ แล้วแปลงรหัสเป็นสัญญาณไฟฟ้าเข้าไปเก็บในเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์โอซีอาร์ที่เราสามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน ได้แก่ เครื่องอ่านรหัสแท่ง (Barcode reader)
4) OMR (Optical Mark Reader) อุปกรณ์นำเข้าที่ทำงานโดยการอ่านข้อมูลจากการทำเครื่องหมายด้วยดินสอและปากกาลงบนกระดาษคำตอบ (Answer sheet) ซึ่งถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ
5) เครื่องอ่านพิกัด (Digitizer) เป็นอุปกรณ์รับข้อมูล มีลักษณะเป็นแผ่นกระดานสี่เหลี่ยม มีสายไฟฟ้าและอุปกรณ์คล้ายแว่นขยายที่มีเครื่องหมายกากบาทตรงกลาง พร้อมกับปุ่มสำหรับกด โดยปกติมักใช้ในการอ่านจุดพิกัดของแผนที่ หรือตำแหน่งของภาพกราฟิกต่างๆ
6) สแกนเนอร์ (Scanner) เป็นอุปกรณ์นำเข้าข้อมูลที่เป็นเอกสาร รูปภาพ หรือ รูปถ่าย สแกนเนอร์สามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภท คือ
- แบบเลื่อนกระดาษ (Sheet-Fed Scanner) สแกนเนอร์แบบนี้จะรับกระดาษแล้วค่อย ๆ เลื่อนหน้ากระดาษให้ผ่านหัวสแกนซึ่งอยู่กับที่
- แบบแท่นนอน (Flatbed scanner) สแกนเนอร์แบบนี้จะมีกลไกคล้ายกับเครื่องถ่ายเอกสาร เหมาะสำหรับใช้กับเอกสารทั้งที่เป็นแผ่นเดียวและเอกสารที่เป็นเล่ม
- แบบมือถือ (Hand-held Scanner) สแกนเนอร์แบบมือถือได้รวมเอาข้อดีของสแกนเนอร์ ทั้งสองแบบเข้าไว้ด้วยกัน
7) ปากกาแสง (Light Pen) เป็นอุปกรณ์ทำงานคล้ายกับเมาส์ในการติดต่อกับคอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับงานวาดภาพ
8) จอยสติก (Joy Sticks) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมทิศทางของวัตถุบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ส่วนใหญ่จะใช้ในการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ มีทั้งที่เป็นแบบแบน แบบคันโยก หรือ แบบพวงมาลัย
9) จอสัมผัส (Touch Screen) เป็นจอภาพชนิดพิเศษที่ใช้ระบบสัมผัสแทนการใช้คีย์บอร์ดและเมาส์ นิยมนำมาใช้กับงาน
10) เครื่องเทอร์มินัล (Point of Sale Terminal) เป็นอุปกรณ์รับข้อมูลอีกอย่างหนึ่งที่นิยมใช้ในร้านค้า เครื่องเทอร์มินัลนี้จะมีแป้นพิมพ์สำหรับกรอกข้อมูล มีจอภาพเล็กๆ เพื่อใช้แสดงผลต่างๆ และมีเครื่องพิมพ์สำหรับพิมพ์รายการ ทั้งนี้สามารถนำเครื่องอ่านรหัสบาร์โค๊ดเข้ามาช่วยในการรับข้อมูลได้ ซึ่งช่วยลดความผิดพลาดอันอาจเกิดจากการกรอกข้อมูลที่มีจำนวนมาก
11) แผ่นสัมผัส (Touch Pads) เป็นอุปกรณ์รับข้อมูลโดยการใช้นิ้วสัมผัสลงบนแผ่นสัมผัส น้ำหนักที่กดสงไปจะถูกเปลี่ยนเป็นสัญญาณไฟฟ้า มักเห็นอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก
12) กล้องดิจิทัล (Digital Camera) เป็นอุปกรณ์รับข้อมูลเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ ที่สามารถแปลงข้อมูลภาพเป็นสัญญาณดิจิทัล มีลักษณะการใช้งานเหมือนกล้องถ่ายภาพทั่วไป แต่ต่างกันตรงที่ไม่ต้องใช้ฟิล์มในการบันทึกข้อมูล ข้อมูลภาพที่ได้สามารถถ่ายลงสู่เครื่องคอมพิวเตอร์และสามารถเรียกดูได้ทันที หรือจะใช้โปรแกรมช่วยตกแต่งภาพให้ดูสวยงามขึ้นก็ได้
13) อุปกรณ์รับข้อมูลเสียง (Voice Input Devices) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ไมโครโฟน เป็นอุปกรณ์รับข้อมูลในรูปแบบเสียง โดยจะทำการแปลงสัญญาณเสียงเป็นสัญญาณดิจิทัลแล้วจึงส่งไปยังคอมพิวเตอร์
3.3 หน่วยความจำ (Memory Unit)
เป็นหน่วยจัดเก็บข้อมูลที่ทำงานได้รวดเร็วที่สุด ซึ่งสามารถจำแนกตามลักษณะการใช้งานได้ 2 ประเภท คือ
1) หน่วยความจำหลัก (Main Memory) หรือเรียกว่า หน่วยความจำภายใน (Internal Memory) สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- .1 แรมงหน่วยความจำหลัก หากพิตารอม (Read Only Memory - ROMม) ธ์ที่ได้ข่ภ่าได้ 2 แะกาเป็นหน่วยความจำที่มีโปรแกรมหรือข้อมูลอยู่แล้ว สามารถเรียกออกมาใช้งานได้แต่จะไม่สามารถเขียนเพิ่มเติมได้ และแม้ว่าจะไม่มีกระแสไฟฟ้าไปเลี้ยงให้แก่ระบบข้อมูลก็ไม่สูญหายไป
- แรม (Random Access Memory) เป็นหน่วยความจำที่สามารถเก็บข้อมูลได้เมื่อมีกระแสไฟฟ้าหล่อเลี้ยงเท่านั้น เมื่อใดไม่มีกระแสไฟฟ้ามาเลี้ยงข้อมูลที่อยู่ในหน่วยความจำชนิดนี้จะหายไปทันที
2) หน่วยความจำรอง (Second Memory) หรือหน่วยความจำภายนอก (External Memory) เป็นหน่วยความจำที่ต้องอาศัยสื่อบันทึกข้อมูลและอุปกรณ์รับ-ส่งข้อมูลชนิดต่างๆ ได้แก่
- ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk) เป็นฮาร์ดแวร์ที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ ทั้งโปรแกรมใช้งานต่างๆ ไฟล์เอกสาร รวมทั้งเป็นที่เก็บระบบปฏิบัติการที่เป็นโปรแกรมควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย
- ฟล็อบปี้ดิสก์ (Floppy Disk) เป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลที่มีขนาด 3.5 นิ้ว มีลักษณะเป็นแผ่นกลมบางทำจากไมลาร์ (Mylar) สามารถบรรจุข้อมูลได้เพียง 1.44 เมกะไบต์ เท่านั้น
- ซีดี (Compact Disk - CD) เป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลแบบดิจิทัล เป็นสื่อที่มีขนาดความจุสูง เหมาะสำหรับบันทึกข้อมูลแบบมัลติมีเดีย ซีดีรอมทำมาจากแผ่นพลาสติกกลมบางที่เคลือบด้วยสารโพลีคาร์บอเนต (Poly Carbonate) ทำให้ผิวหน้าเป็นมันสะท้อนแสง โดยมีการบันทึกข้อมูลเป็นสายเดียว (Single Track) มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 120 มิลลิเมตร ปัจจุบันมีซีดีอยู่หลายประเภท ได้แก่ ซีดีเพลง ( CD Audio CD) วีซีดี (Video CD - VCD) มี่างไรก็ดีซีดีก็มีงที่เคลือบโดยดีย หซีดี-อาร์ (CD Recordable – CD-R) ซีดี-อาร์ดับบลิว (CD-Rewritable – CD-RW) และ ดีวีดี (Digital Video Disk - DVD)
3) รีมูฟเอเบิลไดร์ฟ (Removable Drive) เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่ไม่ต้องมีตัวขับเคลื่อน (Drive) สามารถพกพาไปไหนได้โดยต่อเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย Port USB ปัจจุบันความจุของรีมูฟเอเบิลไดร์ฟมีตั้งแต่ 8 , 16 , 32 , 64 , 128 จนถึง 1024 เมกะไบต์กกdtw[9N ทั้งนี้ยังมีไดร์ฟลักษณะเดียวกัน เรียกในชื่ออื่นๆ ได้แก่ Pen Drive , Thump Drive , Flash Drive
4) ซิบไดร์ฟ (Zip Drive) เป็นสื่อบันทึกข้อมูลที่จะมาแทนแผ่นฟล็อปปี้ดิสก์ มีขนาดความจุ 100 เมกะไบต์ ซึ่งการใช้งานซิปไดร์ฟจะต้องใช้งานกับซิปดิสก์ (Zip Disk) ความสามารถในการเก็บข้อมูลของซิปดิสก์จะเก็บข้อมูลได้มากกว่าฟล็อปปี้ดิสก์
5) Magnetic optical Disk Drive เป็นสื่อเก็บข้อมูลขนาด 3.5 นิ้ว ซึ่งมีขนาดพอๆ กับฟล็อบปี้ดิสก์ แต่ขนาดความจุมากกว่า เพราะว่า MO Disk drive 1 แผ่นสามารถบันทึกขัอมูลได้ตั้งแต่ 128 เมกะไบต์ จนถึงระดับ 5.2 กิกะไบต์
6) เทปแบ็คอัพ (Tape Backup) เป็นอุปกรณ์สำหรับการสำรองข้อมูล ซึ่งเหมาะกับการสำรองข้อมูลขนาดใหญ่มากๆ ขนาดระดับ 10-100 กิกะไบต์
7) การ์ดเมมโมรี (Memory Card) เป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลที่มีขนาดเล็ก พัฒนาขึ้น เพื่อนำไปใช้กับอุปกรณ์เทคโนโลยีแบบต่างๆ เช่น กล้องดิจิทัล คอมพิวเตอร์มือถือ (Personal Data Assistant - PDA) โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

3.4 หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit - CPU)
หน่วยประมวลผลกลางหรือซีพียู เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โปรเซสเซอร์ (Processor) หรือ ชิป (chip) นับเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากที่สุดของฮาร์ดแวร์ เพราะมีหน้าที่ในการประมวลผลข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อน เข้ามาทางอุปกรณ์นำเข้าข้อมูลตามชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ผู้ใช้ต้องการใช้งาน หน่วยประมวลผลกลาง ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วน คือ
1) หน่วยคำนวณและตรรกะ (Arithmetic & Logical Unit : ALU)
หน่วยคำนวณตรรกะ ทำหน้าที่เหมือนกับเครื่องคำนวณอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยทำงานเกี่ยวกับการคำนวณทางคณิตศาสตร์ เช่น บวก ลบ คูณ หาร อีกทั้งยังมีความสามารถอีกอย่างหนึ่งที่เครื่องคำนวณธรรมดาไม่มี คือ ความสามารถในเชิงตรรกะศาสตร์ หมายถึง ความสามารถในการเปรียบเทียบตามเงื่อนไข และกฎเกณฑ์ทางคณิตศาสตร์ เพื่อให้ได้คำตอบออกมาว่าเงื่อนไข นั้นเป็น จริง หรือ เท็จ ได้
2) หน่วยควบคุม (Control Unit)
หน่วยควบคุม ทำหน้าที่ควบคุมลำดับขั้นตอนการประมวลผล รวมไปถึงการประสานงานกับอุปกรณ์นำเข้าข้อมูล อุปกรณ์แสดงผล และหน่วยความจำสำรองด้วย ซีพียูที่มีจำหน่ายในท้องตลาด ได้แก่ Pentium III , Pentium 4 , Pentium M (Centrino) , Celeron , Dulon , Athlon
3.5 หน่วยแสดงผล (Output Unit)
เป็นอุปกรณ์ส่งออก (Output device) ทำหน้าที่แสดงผลลัพธ์เมื่อซีพียูทำการประมวลผล
1) จอภาพ (Monitor) เป็นอุปกรณ์แสดงผลลัพธ์ที่เป็นภาพ ปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ จอภาพแบบ CRT (Cathode Ray Tube) และ จอภาพแบบ LCD (Liquid Crystal Display)
2) เครื่องพิมพ์ (Printer) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แสดงผลลัพธ์ในรูปของอักขระหรือรูปภาพที่จะไปปรากฏอยู่บนกระดาษ แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ เครื่องพิมพ์ดอตเมตทริกซ์ (Dot Matrix Printer) เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก (Ink-Jet Printer) เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ (Laser Printer) และ พล็อตเตอร์ (Plotter)
3) ลำโพง (Speaker) เป็นอุปกรณ์แสดงผลลัพธ์ที่อยู่ในรูปของเสียง สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านแผงวงจรเกี่ยวกับเสียง (Sound card) ซึ่งมีหน้าที่แปลงข้อมูลดิจิทัลไปเป็นเสียง

3.6 อุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ
1) โมเด็ม (Modem) มาจากคำว่า (modulate/demodulate) เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ติดต่อกับโลกภายนอกได้อย่างง่ายดาย ปัจจุบันโมเด็มมีทั้งแบบติดตั้งภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ เรียกว่า Internal Modem และ แบบภายนอกเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งเรียกว่า External Modem
2) แผงวงจรเชื่อมต่อเครือข่าย (LAN card) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการรับ-ส่งข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์หรือเวิร์คสเตชั้น (Workstation) และเครื่องให้บริการข้อมูล (Server) ดังนั้นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องการเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ จำเป็นต้องติดตั้งแลนการ์ด

3.7 การเลือกซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
หลักเกณฑ์ในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ ควรพิจารณาสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้
1) ความจำเป็นใช้งาน งานที่ทำจำเป็นต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์หรือไม่ ? เนื่องจากคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์และล้าสมัยเร็ว หากพิจารณาแล้วว่าจำเป็นก็ควรซื้อ แต่ต้องเลือกซื้อเครื่องที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับงาน
2) วัตถุประสงค์ในการใช้งาน ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อทำงานอะไร ? หลังจากที่ตัดสินใจที่จะซื้อคอมพิวเตอร์แล้ว ควรจะพิจารณาวัตถุประสงค์ที่ต้องการนำคอมพิวเตอร์มาใช้งาน เช่น นำมาใช้ในงานสำนักงาน นำมาใช้เพื่อความบันเทิง เป็นต้น
3) งบประมาณ มีงบประมาณเท่าไร ? เมื่อทราบวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนแล้ว ขั้นต่อมาต้องพิจารณางบประมาณที่จะสามารถจัดซื้อคอมพิวเตอร์ได้ตรงกับความต้องการและการใช้งานก็จะเกิดประโยชน์สูงสุด

3.7.1 คุณสมบัติของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ควรพิจารณา
m หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ Intel , AMD และ Celeron ส่วนความเร็วของซีพียูควรอยู่ในระดับ 1.4 – 2.4 กิกะเฮิรตซ์ แต่การเลือกใช้ซีพียูใดก็ตามมีผลต่อการเลือกใช้แผงวงจรหลักด้วย เช่น
- ซีพียู AMD Duron , Athlon จะใช้กับแผงวงจรหลักแบบ Socket A
- ซีพียู Intel Pentium , Celeron จะใช้กับแผงวงจรหลักแบบ Socket 370
- ซีพียู Intel Pentium 4 จะใช้กับแผงวงจรหลักแบบ Socket 478
m แผงวงจรหลัก เป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นแผงวงจรทำหน้าที่เป็นตัว เชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรเลือกซื้อแผงวงจรหลักที่สนับสนุนอุปกรณ์ใหม่ๆ เพราะจะสามารถใช้งานได้นาน และหาอุปกรณ์เพื่อทำการอัพเกรดได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแผงวงจรหลักใหม่
m แรม ควรเป็นหน่วยความจำแบบ DDR RAM และควรมีขนาดอย่างน้อย 128 เมกะไบต์เป็นอย่างน้อย โดยปัจจุบันมีความเร็ว Bus ตั้งแต่ 66, 100, 133 เมกกะเฮิรตซ์
m ฮาร์ดดิสก์ ควรเป็นฮาร์ดดิสก์มาตรฐานการเชื่อมต่อแบบ ATA โดยมีขนาด 20 - 40 กิกะไบต์เป็นอย่างน้อย
m การ์ดแสดงผล ควรสนับสนุนการทำงานแบบสี แบบ VGA , SVGA หรือ XGA 3D เมื่อต้องการใช้งานแบบ 3 มิติ
m จอภาพ ควรมีขนาด 15 – 17 นิ้วเป็นอย่างน้อย ซึ่งอาจเลือกใช้แบบ CRT หรือ LCD ขึ้นอยู่กับงบประมาณ เนื่องจากจอภาพแบบ LCD จะมีราคาสูงกว่าจอภาพแบบ CRT
m ซีดีรอมไดร์ฟ ควรมีความเร็วในการอ่านข้อมูลตั้งแต่ 50X ขึ้นไป
m อุปกรณ์เก็บข้อมูลสำรอง เครื่องคอมพิวเตอร์ที่จะซื้อควรมีฟล็อบปี้ดิสก์ไดร์ฟ ขนาด 3.5 นิ้ว
m การ์ดเสียง ควรเป็นแบบ PCI และควรสนับสนุนเสียงแบบ 3 มิติ ถ้าต้องการใช้งานบันเทิง เช่น การเล่นคาราโอเกะ รวมทั้งมีลำโพงด้วย
m อุปกรณ์เชื่อมต่อระบบเครือข่าย ถ้าต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตควรจัดหาโมเด็มมาใช้งาน โดยต้องพิจารณาลักษณะการใช้งานด้วย เช่น ถ้าจำเป็นต้องมีการเคลื่อนย้ายบ่อยควรเลือกใช้โมเด็มแบบภายนอก (External Modem) หรือถ้าการใช้งานไม่จำเป็นต้องมีการเคลื่อนย้ายควรเลือกใช้โมเด็มแบบติดตั้งภายใน (Internal Modem) โดยควรมีความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูล 56 bps เป็นอย่างน้อย
m เครื่องพิมพ์ ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงานพิมพ์ที่ต้องการ ได้แก่
- เครื่องพิมพ์แบบ Dot Matrix เหมาะกับงานพิมพ์ที่สามารถทำสำเนาเอกสารได้
- เครื่องพิมพ์แบบ Ink Jet เหมาะกับงานพิมพ์ที่ต้องการภาพสี งานกราฟิก และควรเลือกรายละเอียดที่เหมาะสมกับงาน รวมถึงควรพิจารณาการใช้งานของตลับหมึก กล่าวคือตลับมึกขาว-ดำควรแยกเป็นอิสระกับตลับหมึกสี เพราะจะช่วยประหยัดเมื่อต้องการพิมพ์งาน ขาว-ดำมากกว่างานสี อย่างไรก็ดีราคาของตลับหมึกก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ควรพิจารณา
- เครื่องพิมพ์แบบ Laser Printer เหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่ต้องการความละเอียดสูง ต้องการความเร็วในการพิมพ์สูง และเหมาะกับงานพิมพ์ที่เน้นเอกสารที่เป็นข้อความเป็นหลัก
3.8 การเลือกซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา
โน้ตบุ๊ก เป็นคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็กกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ภายในตัวเครื่องจะประกอบไปด้วย จอภาพ เมาส์ คีย์บอร์ด ลำโพง โดยไม่ต้องต่ออุปกรณ์เพิ่มจากภายนอก ทั้งนี้โน้ตบุ๊กจะมีแบตเตอรี่ช่วยให้สามารถนำเครื่องไปใช้งานนอกสถานที่ได้โดยไม่ต้องเสียบปลั๊กไฟ ดังนั้นโน้ตบุ๊กจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางออกไปทำงานนอกอาคารสถานที่
เดสก์โน้ต เป็นคอมพิวเตอร์ที่นำเอาซีพียูของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมาใช้ในเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา แต่จะไม่มีแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่งนั่นคือ เดสก์โน้ตจำเป็นต้องเสียบปลั๊กไฟเวลาใช้งาน ดังนั้นเดสก์โน้ต จึงเหมาะกับผู้ที่ใช้งานที่มีการเคลื่อนย้ายสถานที่ภายในอาคารเดียวกัน หรือภายในสถานที่ที่มีปลั๊กไฟพร้อมใช้งานตลอดเวลา
แทบเล็ต พีซี เป็นคอมพิวเตอร์แบบพกพาที่มีลักษณะคล้ายโน้ตบุ๊กทั่วไป ต่างกันตรงที่ไม่มีคีย์บอร์ด และเมาส์ที่ใช้ในการป้อนคำสั่ง แต่จะใช้ปากกาสไตรัส (Stylus) เป็นอุปกรณ์ป้อนคำสั่งผ่านทางหน้าจอที่เป็นทัชสกรีน อย่างไรก็ดีแทบเล็ต พีซี จะมีความสามารถโดดเด่นในการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบไร้สาย ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการรับ-ส่งข้อมูล ทั้งนี้แทบเล็ต พีซี ได้พัฒนาขึ้นเพื่อการใช้งานนอกสถานที่โดยเฉพาะ

3.8.1 คุณสมบัติของคอมพิวเตอร์แบบพกพาที่ควรพิจารณา
m จอภาพ ควรมีขนาดใหญ่ เพราะยิ่งมีขนาดใหญ่จะยิ่งดูได้ชัดเจน และควรเป็นจอภาพแบบ TFT ความละเอียดควรกำหนดได้อย่างน้อย 800 x 600 จำนวนสีที่สามารถกำหนดได้อย่างต่ำควรเป็น 16 บิต
m แบตเตอร์รี่ ควรใช้ ลิเธียมไอออน เพราะว่ามีอายุการใช้งานนานที่สุดในบรรดาแบตเตอรรี่อื่นๆ
m หน่วยความจำ ควรติดตั้งแรมให้มากเท่าที่จะสามารถทำได้ อย่างน้อย 128 เมกะไบต์
m ฮาร์ดดิกส์ อย่างน้อย 5 กิกะไบต์ ขึ้นไป เพราะว่าปัจจุบันโปรแกรมส่วนใหญ่มีขนาดค่อนข้างใหญ่มาก
m ระบบมัลติมีเดีย หมายถึง ซีดีรอม หรือ เครื่องอ่านแผ่นดีวีดี (DVD Drive) บวกกับ Sound card ส่วนใหญ่กลายเป็นอุปกรณ์พื้นฐานไปแล้วสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ ๆ แต่ก็ไม่ควรพลาดที่จะมีไว้ เนื่องจากซอร์ฟแวร์ส่วนใหญ่จะบันทึกผ่านทางแผ่นซีดี
m โมเด็ม ถ้าต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ต และต้องการส่งแฟกซ์ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์
m เน็ตเวิร์คการ์ด สำหรับเชื่อมระบบเครือข่าย ถ้ามีการใช้งานในระบบเครือข่าย (Network)







เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

http://pioneer.chula.ac.th/~pnarote/2200199/hardware/list.html (Access date : Febuary 11, 2004).
http://se-ed.net/sanambin/hardware.html (Access date : Febuary 5, 2004).
http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/ (Access date : Febuary 5, 2004).
http://www.geocities.com/mtw0077/ (Access date : Febuary 5, 2004).
http://www.geocities.com/mtw0077/buycom.htm (Access date : Febuary 5, 2004).
http://www.glencoe.com/notron4e/introduction/lesson_11/over.htm (Access date : March 6, 2004).
http://www.glencoe.com/notron4e/introduction/lesson_12/over.htm (Access date : March 6, 2004).
http://www.uni.net.th/%7E08_2543/mainmenu.html (Access date : Febuary 5, 2004).
http://www.webopedia.com/DidYouKnow/Hardware_Software/2003/CD (Access date: February 22, 2004).